การประท้วงกรณีจอร์จ ฟลอยด์ เมื่อคนผิวสีถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมจนเสียชีวิต 

การประท้วงกรณีจอร์จ ฟลอยด์ เมื่อคนผิวสีถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมจนเสียชีวิต 

17 พฤศจิกายน 2021 0 By admin admin

การประท้วงกรณีจอร์จ ฟลอยด์ เมื่อคนผิวสีถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมจนเสียชีวิต 

แม้ว่าในปัจจุบันนี้เราจะมีความตระหนักถึงความเท่าเทียมกันในสีผิวและเชื้อชาติ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ยังมีผู้คนจำนวนมากที่มีพฤติกรรมเหยียดสีผิวและชนชาติอยู่ พฤติกรรมเหล่านี้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อมันเกิดขึ้นใน สหรัฐอเมริกา ดินแดนที่หลายคนมองว่าเต็มไปด้วยความอิสระเสรี แต่ในความเป็นจริงแล้วมีคนผิวสีเป็นจำนวนมาก ที่ยังคงถูกยึดและปฏิบัติด้วยอย่างไม่เท่าเทียม หากมีคนผิวขาวสักคนทำการโทรแจ้งตำรวจว่ามีผู้ต้องสงสัยเป็นคนผิวสีเพียงเพราะเขาแค่เดินผ่านหน้าบ้าน ตำรวจบางนายก็พร้อมที่จะมาใส่กุญแจมือคนผิวสีทันทีโดยที่แทบจะไม่มีการสอบสวนอะไรเลย

หนึ่งในคนผิวสีที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมก็คือชายที่มีชื่อว่า จอร์จ ฟลอยด์ สาเหตุที่ทำให้เขารู้จักกันไปทั่วทั้งโลกเกิดจากการที่เขาต้องเสียชีวิตจากการกระทำไม่คิดหน้าคิดหลังและการเหยียดสีผิวของตำรวจนายหนึ่งที่กระทำการเกินกว่าเหตุ เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม 2020 จอร์จ ฟลอยด์ซึ่งเป็นชายผิวสีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันถูกตำรวจใน เมืองมินนีแอโปลิส เข้าจับกุมอย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ เขาถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดทับบริเวณลำคอจนเขาต้องนอนลงไปกับพื้นถนน แม้ว่าเขาจะทำการบอกตำรวจว่าเขาหายใจไม่ออกแต่นายตำรวจคนนั้นก็ยังไม่หยุดจนสุดท้ายเขาก็เสียชีวิตลง แม้จะโชคดีที่มีการบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวได้สำเร็จและทำให้นายตำรวจที่มีชื่อว่า เดเร็ค เชาวิน ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและไล่ออกจากการเป็นตำรวจ แต่มันก็ไม่สามารถดับไฟโกรธแค้นของผู้คนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับประเด็นการเหยียดสีผิวจนถึงแก่ความตายในครั้งนี้ได้

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ก็ทำให้มีผู้คนจำนวนมากออกมาประท้วงเกี่ยวกับการเหยียดสีผิวโดยเฉพาะในกรณีของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันทั้งผิวสีและผิวขาวได้มีการรวมตัวกันชุมนุมทั่วประเทศเพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจและต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและสีผิว การประท้วงใหญ่โตมากยิ่งขึ้นจนทำให้ก่อนกำลังด้านความมั่นคงต้องคอยป้องกันเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมสามารถเข้าสู่ทำเนียบขาวได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันผู้คนเป็นจำนวนมากก็ได้มีการเอามารวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงเขา กระแส Black Live matter กลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจไปทั่วทั้งโลก นักแสดงทั้ง Hollywood และในต่างประเทศต่างออกมาติดแฮชแท็กเพื่อแสดงการเรียกร้องการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 แต่ก็ไม่อาจยับยั้งผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนได้สำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการประท้วงลามไปในอีกหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน รวมไปถึงในออสเตรเลีย โดยการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นใน กรุงวอชิงตันดีซี โดยนายกเทศมนตรีได้ออกมาต้อนรับผู้ชุมนุมว่าเขาทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว