การประท้วงในอิรัก จากปัญหาความเป็นอยู่สู่การประท้วงอย่างรุนแรง
21 พฤศจิกายน 2021การประท้วงในอิรัก จากปัญหาความเป็นอยู่สู่การประท้วงอย่างรุนแรง
ความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะคอยดูแลกุ้งชูให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีไม่ว่าจะเป็นการอุปโภคบริโภคหรือการใช้สื่อสัญญาณต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นอย่างไรหากคุณต้องอาศัยอยู่ในประเทศที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำอยู่เป็นประจำ มีปัญหาไฟฟ้าดับเรื้อรังไม่อาจแก้ไข ประเทศเต็มไปด้วยการคอรัปชั่น แถมสัญญาณอินเตอร์เน็ตยังย่ำแย่ มันคงเป็นชีวิตที่ย่ำแย่มากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะเคยพบเจอเพราะเพียงแค่สาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่มีให้ใช้
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นใน ประเทศอิรัก ประเทศที่อยู่ภายใต้ไฟสงครามมาเป็นระยะเวลานานหลายสิบปีจนทำให้ประเทศของพวกเขานั้นหยุดการพัฒนาลงไปอย่างน่าเสียดาย ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งหลายย่อมแย่อย่างหนักหน่วงจนทำให้ผู้คนรุ่นใหม่ชาวอิรักได้มีการออกมาชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มีความสามารถมากพอในการจัดการปัญหาดังกล่าวได้สำเร็จและกลายมาเป็น การประท้วงในอิรัก พ.ศ. 2562 ในที่สุด
อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่นอกจากเรื่องระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เราคนรุ่นใหม่ต้องพบเจอหลังจากที่คนรุ่นเก่าก่อสงครามกันมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายปีคืออัตราการว่างงาน พวกเขาไม่มีงานทำไม่มีรายได้ ความเป็นอยู่ย้ำแย่จนถึงขีดสุด โดยธนาคารโลกได้มีการออกมาระบุตัวเลขในปัจจุบันว่ามีประชาชนรุ่นใหม่ถึง 2 เท่าหรือ 25 เปอร์เซ็นต์ที่ว่างงานในประเทศอิรัก
การประท้วงในอิรัก พ.ศ. 2562 เป็นการประท้วงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ดังนั้นมันจึงไม่ใช่การชุมนุมที่สงบและสันติตั้งแต่เริ่มต้น ผู้ประท้วงได้ท้าทายอำนาจของเหล่าเจ้าหน้าที่และคำสั่งเคอร์ฟิวของรัฐบาล ไม่หวั่นแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะสาดกระสุนปืนใส่พวกเขาก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีของ อิรัก มีความพยายามที่จะยับยั้งการชุมนุมด้วยการออกคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวในกรุงแบกแดดแต่เวลา 5:00 น.เป็นต้นไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีผู้ชุมนุมหลายสิบคนทำการฝ่าฝืนคำสั่งและออกมารวมตัวกันบริเวณ จัตุรัสตอห์รี แม้ว่าจะมีผู้ชุมนุมต้องการจะนอนค้างเพื่อไม่ให้ตำรวจทำการเข้ายึดพื้นที่
แต่หลังจากที่ตำรวจปราบจลาจลได้ทำการยิงปืนขึ้นฟ้าคนเหล่านี้ก็ถูกขับไล่ไปในที่สุด การประท้วงดังกล่าวค่อนข้างรัดมือโยกสำหรับรัฐบาลเนื่องจากไม่มีผู้นำอย่างแท้จริงและมันได้ลุกลามไปทั่วบริเวณภาคใต้ของอิรักซึ่งเป็นสถานที่อยู่อาศัยของ ชาวชีอะห์ การประท้วงที่เต็มไปด้วยความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากทั้งที่มีการประท้วงเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น นอกจากผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตแล้วยังรวมไปถึงตำรวจอีกด้วย
