การศึกษาไทยกับความไม่เท่าเทียม
7 กุมภาพันธ์ 2022การศึกษาไทยกับความไม่เท่าเทียม
เมื่อพูดถึง การศึกษาของประเทศไทย แล้วนั้น เราทุกคนแทบจะทราบกันอยู่แล้ว ว่า การศึกษาไทย นั้นหาความเท่าเทียมได้น้อยมาก ด้วยความที่เราแต่ละคนมีหลาย ๆ อย่างแตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นฐานะ การเป็นอยู่ สังคม สภาพแวดล้อม และที่สำคัญไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือ การจัดการระบบการศึกษาของรัฐบาลไทย มีคุณภาพเป็นกระจุก ไม่กระจายไปทั่วประเทศ ครอบครัวที่มีเงินจึงจะมีโอกาสให้การศึกษาที่ดีแก่บุตรหลาน ส่วนเด็กไทยที่ด้อยโอกาส ทางการศึกษามีอยู่ทั่วประเทศ
ปรับปรุงพัฒนาให้แต่ละโรงเรียนมีความเท่าเทียมกัน ทั้งเรื่องของอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ความทันสมัย ความพร้อมต่าง ๆ โดยจะต่างกันมาก ทั้งสภาพแวดล้อม สังคม การใช้ชีวิต และที่สำคัญไม่แพ้กัน คือครูที่อยู่ในโรงเรียน พื้นที่ด้อยโอกาส แถมบางโรงเรียนโรงเรียนยังมีแต่ ครูอัตราจ้าง ครูอาสา ไม่มีครูที่จบครูมาสายตรง น่าเห็นใจครูซึ่งมีเงินเดือนๆ น้อย แถมอัตราส่วนระหว่างครู 1 คนต่อจำนวนนักเรียนก็ไม่สมดุล มิหนำซ้ำบางโรงเรียน ห้องหนึ่งมีเด็กทุกระดับชั้นผสมกัน แล้วจะให้คนเป็นครูสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรกัน
รวมไปถึงหลาย ๆ เรื่อง ที่ไม่ค่อยจะจำเป็นสักเท่าไหร่แต่ที่ประเทศไทยของเรายังให้ความสำคัญกับมันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ทรงผม สีผม การแต่งกาย ซึ่งต่างประเทศเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้สักเท่าไหร่เปิดโอการให้นักเรียน ได้แสดงออกอย่างเต็มที่แลกเปลี่ยนความคิดกัน ความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยแต่ละฝ่ายก็ได้ยกประเด็น และเหตุผลขึ้นมาคัดง้างกัน จึงทำให้สังคมไทย และ ระบบการศึกษาไทย ก้าวข้ามไปไม่พ้นความมีระเบียบวินัยภายใต้กรอบ และรูปแบบของความเหมือนกันทั้งหมด
ปัจจุบัน จึงควรมี สิทธิ และเสรีภาพในการเลือกที่จะแต่งกายมาโรงเรียนได้ด้วยตัวเขาเอง เพราะจะได้แสดงออกมีอิสระในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ แม้อาจจะยังเด็ก หรือเลือกแต่งกายไม่ได้ แต่ผู้ปกครอง และครู ก็สามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยการส่งเสริม และสนับสนุน ให้เด็กรู้จักการแต่งกายที่เหมาะสม และถูกต้องตามกาลเทศะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมิใช่การบังคับให้ต้องแต่งกายให้เหมือนกันทั้งหมด ดังเช่นชุดนักเรียนที่เราแต่งกันอยู่ทุกวันนี้
ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ ว่าการที่เราจะแต่งตัวตามระเบียบหรือแต่งตัวอิสระ จะเห็นได้ว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างว่าสมควรหรือไม่ในการแต่งกายเหมาะหรือไม่ในการแต่งตัวที่เราสามารถกำหนดเองได้ไม่กระทบกับผลการเรียนแถมยังเหมาะที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ลองพิจารณากันดูนะคะ