ครม. เห็นชอบให้เพิ่มเงินลูกจ้างว่างงานจากพิษโควิด
6 มกราคม 2021จากพิษโควิด-19 ที่กระจายระบาดไปทั่วประเทศ ทำให้มีผู้ตกงานเพิ่มขึ้น ครม.จึงเห็นชอบให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกมาประกาศเมื่อวานว่า ครม. เห็นชอบให้เพิ่มเงินลูกจ้างว่างงานจากพิษโควิด ในที่ประชุมมีมติเป็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อให้ทบทวนอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ตามร่างกฎหมายการว่างงานเนื่องจากเหตุสถานการณ์โควิด-19 จึงของประกาศเพิ่มเติมดังนี้
- ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนตามมาตรา 79/1 มีสิทธิ์ได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน โดยจะต้องได้รับตลอดระยะเวลาที่ว่างงาน เนื่องจากเหตุโควิด-19 หรือเป็นผู้ที่นายจ้างไม่ให้ทำงานด้วยเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ไม่เกิน 180 วัน
- ให้ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานตามมาตรตรา 79/1 ในอัตราร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวัน ซึ่งว่างงานจากสถานการณ์โควิด-19 หรือเป็นผู้ที่นายจ้างไม่ให้ทำงาน เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน
- ในหน่วนงานภาครัฐ ที่โดนคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการ เพื่อการป้องกันและหรือที่ต้องเสี่ยงกับการแพร่เชื้อระบาดของโควิด-19 เป็นเหตุให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าจ้างที่เคยได้ หรือประโยชน์ทดแทนอื่นใดในกรณีว่างงานตามมาตรตรา 79/1 ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน ทั้งนี้ให้ได้รับประโยชน์ทดแทนดังกล่าวนี้ไม่เกิน 60 วัน หรือถ้าเป็นกรณีหน่วยงามของรัฐที่มีคำสั่งให้หยุดงาน ให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ทดแทนได้ในอัตราร้อยละ 62 แต่ต้องไม่เกิน 90 วัน
- นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นด้วยในการทบทวนอัตราตามร่างประกาศกระทรวงแรงงาน ในเรื่องที่เกี่ยวกับกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ ตลอดจนเงื่อนไขให้มีการลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตน กรณีการระลบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เป็นไปตามที่ทางกระทรวงแรงงานเสนอ และขอให้ทดทวนอัตราเงินสมทบที่จัดเก็บจากผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งเป็นไปตามประกาศของประกันสังคม ซึ่งกำหนดให้จากเดิมให้ส่งเงินสมทบในอัตรารายเดือน ๆ ละ 211 บาท เป็นให้ส่งเงินสมทบในอัตราใหม่เป็นเดือนละ 86 บาท
ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ตกงาน และยังมีอายุการประกันสังคมอยู่อีกไม่น้อยกว่า 6 เดือนเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ต่อไป หรือเมื่อต้องไปทำงานในที่ใหม่ก็สามารถนำสิทธิเดิมไปต่ออายุเพื่อใช้ได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จึงขอประกาศให้ทั้งลูกจ้าง และนายจ้างที่ต้องหยุดงานทราบทั่วกัน และให้ถือปฏิบัตไปในแนวเดียวกันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติเมื่อเกิดภาวะโรคระบาด ทั้งนี้โดยยังไม่สามารถที่จะยันยั้งได้ในขณะนี้ ซึ่งอาจต้องรอดูท่าทีก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น