เด็กหญิง 9 ขวบ เสียชีวิตเพราะอากาศเป็นพิษ รายแรกของโลก
28 ธันวาคม 2020สำนักข่าว CNN รายงานด่วนเมื่อวานจากอังกฤษว่า แพทย์แจ้งผลการชันสูตรพลิกศพเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่เสียชีวิตเมื่อวานนี้ว่า เป็น การตายเนื่องจากภาวะอากาศเป็นพิษ เด็กหญิง 9 ขวบ เสียชีวิตเพราะอากาศเป็นพิษ รายแรกของโลก นับว่าเป็นรายแรกของโลกที่เสียชีวิตเพราะ มลพิษทางอากาศ
เด็กหญิงเอลลา คิสลิ-เดบราห์ เธออาศัยอยู่กับครอบครัวในย่านลูวิแซม บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งอยู่ใกล้กับถนนเซาท์ เซอร์คูล่าร์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจของกรุงลอนดอน และเป็นถนนที่มีการสัญจรทางการจราจรหนาแน่นที่สุดของอังกฤษอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เอลล่าไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อ ก.พ. 2556 เธอหัวใจหยุดเต้นและไม่สามารถช่วยได้สำเร็จ เนื่องจากเธอป่วยเป็นโรคหืดหอบอย่างรุนแรง ทำให้หัวใจหยุดเต้น สาเหตุการตายเริ่มจากเธอต้องเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉินหลายครั้ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 3 ปี สุดท้ายแพทย์ระบุสาเหตุการตายของเธอว่าเกิดจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เนื่องจากเป็นโรคหืดหอบอย่างรุงแรง และแพ้มลพิษทางอากาศ แต่ทางเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพระบุสาเหตุการตายของเอลล่า เด็กหญิงวัย 9 ขวบว่าเกิดจากการสูดอากาศที่เป็นมลพิษเข้าไป
เด็กหญิง 9 ขวบ เสียชีวิตเพราะอากาศเป็นพิษ รายแรกของโลก
องค์การกุศลและสมาคมโรคหืดแห่งอังกฤษ รวมทั้ง มูลนิธิโรคปอด ของอังกฤษมีความเห็นตรงกันว่า เด็กหญิงเอลล่า วัย 9 ขวบเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศเป็นคนแรกของโลก ซึ่งมีการระบุในใบมรณะบัตรอีกด้วย นายฟิลิป บาร์โลว์ ผู่วยเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพกล่าวในศาลว่า แม่ของเอลล่า ไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอในการป้องกันมลพิษทางอากาศ ที่ลูกสาวของเธอมีอาการโรคหืดหอบอยู่ จึงทำให้เอลล่าต้องเสียชีวิตในครั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลมลพิษทางอากาศมีความสำคัญมากที่ทางการกรุงลอนดอนจะประกาศให้ผู้อยู่อาศัยในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศทราบเป็นประจำทุกวัน
เด็กหญิงเอลล่า เริ่มป่วยตั้งแต่ต้นปี 2553-2556 เป็นเวลาประมาณ 3 ปี สุดท้ายเธอได้รับไนโตรเจน ไดออกไซด์ และอนุภาคจากฝุ่นขนาดเล็ก หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ฝุ่น PM 2.5 มากเกินกำหนด ที่ องค์การอนามัยโลก ประกาศไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการสูดหายใจที่เต็มไปด้วยมลพิษที่เกิดจากการจราจรที่หนาแน่นของท้องถนนดังกล่าว พร้อมทั้งยังกล่าวต่อไปอีกว่า ทางอังกฤษล้มเหลวในการที่จะลดระดับไนโตรเจน ไดออกไซด์ซึ่งเป็นมลพิษในอากาศ ตามที่กำหนด ส่วนแม่ของเธอได้กล่าวเธอต้องได้รับความยุติธรรมจากการเสียชีวิตของลูกสาว ซึ่งยังมีเด็กคนอื่นที่ต้องใช้ถนนเพื่อเดินไปโรงเรียนและต้องผจญกับอากาศพิษจากบริเวณนี้ อาจเป็นเหตุให้เด็ก ๆ ได้รับอันตรายได้อีก ซึ่งเชื่อว่าลูกสาวของเธอไม่ใช่รายสุดท้ายอย่างแน่นอน ทำให้ทางการกรุงลอนดอนต้องนำเรื่องนี้ไปพิจารณาในศาลต่อไป
ข่าวอื่นๆ