เศรษฐกิจโลกสะดุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ
31 ตุลาคม 2021เศรษฐกิจโลกสะดุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ
หลังจากที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ได้เร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนของเขาได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมไปถึงภาพรวมเศรษฐกิจก็ดูทีท่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นและด้วยความเป็น ตลาดใหญ่ของโลก การที่สหรัฐอเมริกาฟื้นตัวก็ส่งผลดีไปยังตลาดอื่นๆของโลกได้อีกด้วย ซึ่งทำให้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาตัวเลขที่สำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ออกมาทั้งหมด
เศรษฐกิจโลกสะดุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ
หลังจากที่มีแนวโน้มที่ดีมาต่อเนื่อง ทาง ธนาคารกลางสหรัฐ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของเฟด ก็ได้มีการประชุมและออกมาตรการที่จะลดลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่เป็นเหมือนการกระตุ้นนโยบายเศรษฐกิจและเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ทำให้นักลงทุนต่างๆ ทั้งในสหรัฐเองและประเทศต่างๆบนโลก ทยอยนำเงินออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยเช่น ทองคำ, อสังหาริมทรพย์และพันธบัตรถาครัฐ เพื่อนำมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ผลตอบแทนสูงมากขึ้น เช่น หุ้น กองทุน หรือ สกุลเงินดิจิตอล ส่งผลให้มูลค่าเงินได้กระจายออกไปเป็นวงกว้าง เงินสะพัดได้ในทุกตลาด แต่แล้วก็เจออุปสรรคใหญ่ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาโดนโจมตีจากไวรัสโควิด-19 สายพันธ์เดลต้า ที่ระบาดอีกครั้งทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
ร่วมไปถึงสถานการณ์ความไม่สงบในอัฟกานิสถานที่ดูเหมือนว่าสหรัฐอเมริกาจะมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่พอตัว ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐเกิดการชะลอตัว ล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสหรัฐได้ประกาศตัวเลขที่สำคัญอย่าง ตัวเลขการจ้างงานและตำแหน่งงานที่ว่างในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ต่ำกว่าตัวเลขการคาดการณ์ 720,000 ตำแหน่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับตัวเลขที่เคยประกาศในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาที่ตัวเลขทะลุไปถึง ล้านกว่าตำแหน่ง หลังจากมีการประกาศตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์จนอาจทำให้ภาพรวมของสหรัฐเกิดการชะลอตัวจริงตามที่หลายคนกังวล
หลังจากมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานออกมาได้ไม่นาน ก็ได้มีการประกาศดัชนี PPI ที่ชี้บ่งในเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งผลที่ออกมาคือ ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 8.3% การปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ แสดงให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อยังคงมีบทบาทอยู่อย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าจะคลี่คลายลงได้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างๆ เกิดการสับสนในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างมาก และหันไปพึ่งสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง เห็นได้จากราคาพันธบัตรระยะยาวหรือ Bond Yield พุ่งสูงขึ้นทันทีทั้งแบบ 10ปี และ 30ปี
พร้อมฉุดดัชนีหุ้นที่สำคัญอย่างดาวน์โจนท์ร่วงลง 74 จุดก่อนปิดตลาดสัปดาห์ก่อน สุดท้ายแล้วผู้ที่ควรออกมาให้ความชัดเจนเชิงนโยบายอย่าง ธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะต้องพิจารณาทิศทางและแผนการลดวงเงิน QE อีกครั้ง รวมถึงการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยผลตอบแทนต่างๆที่อาจจะช่วยในเรื่องเงินเฟ้อได้ ต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลสหรัฐจะให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องการฟื้นตัวก่อนหรือการชะลอภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งความไม่ชัดเจนนี้อาจทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐและนานาชาติอาจจะสะดุดอีกครั้ง
Credit : Efinance
Credit : Las Vegas Review Journal
Credit : ประชาชาติธุรกิจ